ใบหน้าเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจ แต่สำหรับคนที่เป็นสิวเต็มใบหน้านั้นก็อาจจะทำให้อับอายได้เช่นกัน บางครั้งที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นมันยังคงทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้ตอกย้ำได้อีก บางครั้งเรามีวิธีที่เลี่ยงไม่เกิดเม็ดสิวบนใบหน้า แต่คุณก็ไม่สามรถทำมันให้หายไปได้ภายในวันเดียว มีเคล็ดลับดีในการรักษาสิว ผลิตภัณฑ์ ทรีทเมนต์ หรือ สกินแคร์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อใช้ผ่านไปสักระยะหนึ่ง แต่สิ่งที่คุณควรทำคือ หาวิธีที่เหมาะกับผิวของเราก็พอ
และนี่ก็เป็น วิธีการรักษาสิว แบบธรรมชาติ
1ให้ทาน้ำมะนาวสด เพราะช่วยฟอกผิวแบบธรรมชาติ และช่วยให้สีของแผลดูอ่อนลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยน้ำน้ำมะนาวผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นทาลงบนแผล แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวรผิวหนัง ทิ้งไว้ 15 -20 นาทีแล้วล้างออก หรือจะมาส์กทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ (แต่ทิ้งไว้ข้ามคืนก็ไม่ได้เป็นผลดีมาก เพราะน้ำมะนาวมีกรดด่าง เมื่อทิ้งไว้นานๆอาจจะทำให้เกิดผิวไหม้ได้) เมื่อล้างน้ำมะนาวออกต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวทันที ไม่เช่นนั้นผิวของคุณจะดูแห้งได้อย่างมาก
2 วิธีขัดหน้าด้วยผงฟู วิธีนี้ช่วยขัดผิวลดรอยแผลเป็นจากสิวได้ ให้นำผงฟู 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 2 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทาทั่วให้หน้าของคุณ ควรจะเน้นตรงบริเวรที่เป็นแผล ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเช้ดให้แห้ง แต่วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ แต่รักษาเฉพาะจุดได้เช่นกันโดยทาบนบริเวณรอยแผลเป็นโดยตรง แล้วปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนจะล้างออก
3 รักษาโดยใช้น้ำผึ้ง ช่วยขจัดสิวและลดรอยแดงที่สิวที่หลงเหลืออยู่ ให้นำน้ำผึ้งมาแต้มตรงที่บริเวณแผลเป็นโดยใช้คอตตอนบัดที่สะอาด วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะน้ำผึ้งจะช่วยมอบความชุ่มชื้นแก่ผิวหากว่าหาซื้อผงไข่มุกได้ก็นำผงไข่มุกมาผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย เพื่อให้ได้ทรีทเมนต์ที่มีฤทธิ์ในการรักษามากขึ้นและยังช่วยลดการอักเสบให้สิวดูจางลงได้
4 ใช้ว่านหางจระเข้ วิธีนี้ช่วยบรรเทาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแผลสดหรือแผลไหม้ แม้แต่แผลที่เกิดจากสิวด้วย ว่านหางจระเข้ ช่วยฟื้นฟูให้ผิวดูชุ่มชื้นขึ้น และรอยสิวดูจางลง ให้ใช้วุ้นของว่านหางจระเข้มาทาที่แผลและไม่จำเป้นต้องล้างออกเพื่อให้ได้ฤทธิ์การรักษาที่เข้มข้นขึ้น คุณสามารถผสมน้ำมันทีทรีลงไปในวุ้นว่านหางจระเข้ก่อนนำไปทาผิว
5 รักษาด้วยน้ำแข็ง เป็นวิธีที่หาได้ง่ายจากที่บ้านวิธีนี้จะช่วยให้รอยสิวดูจางลง ให้นำก้อนน้ำแข็งห่อด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูอย่างหนาประคบบริเวณที่มีแผลเป็น ประมาณ 1-2 นาทีให้รู้สึกว่าชา หรือจะเป็นน้ำแข็งที่ทำจากชาเขียวมาประคบตรงบริเวรที่เป็นสิวจะมีสารต้านการอักเสบ ซึ่งไปเสริมฤทธิ์กับความเย็นของน้ำแข็ง
6 ทำยาพอกจากไม้แก่นจันทน์ ผสมผงไม้แก่นจันทน์ 1 ช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำดอกกุหลาบหรือนมสัก 2-3 หยดเพื่อทำเป็นยาพอก ทาบริเวณแผลเป็นแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีก่อนล้างออก ทำเช่นนี้ซ้ำกันทุกวันจนกว่าแผลเป็นจะหายไป
7 น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลจะช่วยปรับปรุงสภาพผิวลดรอยแดงและรอยแผลเป็นต่างๆใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่า ปริมาณที่มากกว่า2 เท่า แล้วนำมาทาบริเวณแผลเป็น
เคล็ดลับ ในการรักษาสิว
ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวของดูชุ่มชื้นขึ้นช่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ต้องมีความอดทนในการรักษาสิวถึงจะได้ผลดีที่สุด รอยแผลต่างๆจะดูจางลงเวลาผ่านไปหลายเดือน เพราะได้คอลลาเจนใหม่มาเติมเต็มผิวบริเวณที่เป็นรอยสิว และแนะนำให้คุณมาส์กหน้าด้วยมาส์กสูตรข้าวโอ๊ตสิ ตักข้าวโอ๊ตมา 1 ช้อนและรดน้ำให้เปียก บีบแล้วนำน้ำนมที่ได้มาทาให้ทั่วทั้งหน้า จากนั้นนำเนื้อข้าวโอ๊ตทั้งหมดมาโปะหน้า และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที อย่าทามาส์กข้าวโอ๊ตตรงบริเวณตาและปาก หลังจากนั้นให้คุณล้างมาส์กออกรับลองได้ว่าจะเห็นผลในทันที หรือบางคนใช้ผงขมิ้นทาบริเวณที่เป็นรอยสิว เพราะจะช่วยฆ่าเชื้อและต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยในการรักษาสิวและรอยแผลเป็นบนใบหน้า สำหรับการผสมนั้น คุณสามารถทำได้โดยนำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำหรือน้ำมะนาว เมื่อทาและปล่อยไว้ครบ 15 นาทีแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น ใช้น้ำมะเขือเทศเพราะจะทำให้ผิวคุณกระจ่างใสช่วยลดรอยแผลเป็นได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น